สารจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ตลอดปี 2565 แม้ต้องเผชิญปัจจัยกดดันทางธุรกิจหลายด้าน ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อผู้บริโภค และการลงทุนภาคเอกชนที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ราคาพลังงานและราคาวัตถุดิบการผลิตที่ปรับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ภาวะผันผวนค่าเงินบาท ปีนี้จึงเป็นปีที่สำคัญในการวางแผนงานอย่างรัดกุมโดยการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างเคร่งครัดเพื่อประคองสถานการณ์และผลการดำเนินงานให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ให้ได้ ผมในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้บริษัทยังคงรักษาสัดส่วนอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับที่คาดหมายไว้ด้วย 2 กลยุทธ์ที่สำคัญ คือการรักษาความมั่นคงของบริษัทเพื่อก้าวต่อไปข้างหน้าโดยการรักษามาตรฐานการให้บริการต่อลูกค้า และการสร้างโอกาสเพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนโดยศึกษาธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสความเป็นไปได้เพื่อรองรับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยและในประเทศคู่ค้าหลายประเทศ
แผนการดำเนินธุรกิจ
- ปลายปี 2564 บริษัท เดอะ ซีฮอร์ส เฟอร์รี่ จำกัด (“The Seahorse”) ซึ่งดำเนินธุรกิจการให้บริการขนส่งและโดยสารด้วยเรือ RORO Passenger (ROPAX) ระหว่างชายฝั่งทะเลตะวันออกกับภาคตะวันตกและขนส่งต่อเนื่องไปยังภาคใต้มีรายได้เชิงพาณิชย์แล้ว โดยในปี 2565 ได้ปรับการให้บริการด้านท่องเที่ยวในเส้นทางสัตหีบ-สมุยเพื่อรองรับนโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวของรัฐบาล ทั้งนี้ ประเทศจีนมีนโยบายเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศได้ตั้งแต่ 8 มกราคม 2566 และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยมากกว่าช่วงก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19
การเข้าลงทุนใน The Seahorse เป็นการเพิ่มโอกาสในการรับรู้รายได้ของบริษัทในอนาคตและเป็นการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจประเภทอื่นนอกจากธุรกิจการบริหารท่าเทียบเรือและการให้บริการคลังสินค้าของบริษัทซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัท - การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (“MOU”) 3 ฝ่ายในโครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาธุรกิจให้บริการรื้อถอนสิ่งติดตั้งในกิจการปิโตรเลียมในประเทศไทยแบบครบวงจรได้มาตรฐานสากล เพื่อเป็นการศึกษาโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้กับบริษัทในอนาคต
- ปริมาณรถยนต์ส่งออกและนำเข้าผ่านท่าเรือ A5 ทั้งสิ้นจำนวน 996,385 คัน ซึ่งสูงกว่าก่อนช่วงสถานการณ์ COVID-19 และพื้นที่จัดเก็บสินค้าและคลังสินค้าของบริษัทจำนวน 276,258 ตารางเมตร มีอัตราการใช้บริการเต็มเกือบทุกพื้นที่และมีพื้นที่ระหว่างก่อสร้างพร้อมจะเปิดให้บริการในปี 2566 อีกกว่า 20,000 ตารางเมตร โดยสัดส่วนการเติบโตของรายได้จากการให้บริการคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแผนงานและการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้การให้บริการท่าเทียบเรือและบริการที่เกี่ยวข้องอย่างเดียว
สำหรับกลยุทธ์การรักษาความมั่นคงของบริษัทเพื่อก้าวต่อไปข้างหน้าโดยการรักษามาตรฐานการให้บริการต่อลูกค้านั้น นับแต่ปี 2563 ซึ่งมีการแพร่ระบาด COVID-19 จนถึงปัจจุบัน บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงการให้บริการลูกค้าเป็นแบบ One-stop service และมีการประเมินความเป็นไปได้ของโอกาสการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานโดยประสานงานอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทเพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบริษัทได้มาตรการตรวจสอบย้อนกลับ (Post checked) เพื่อนำข้อคิดเห็นของลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ตัวแทนสายเรือ ผู้ใช้บริการพื้นที่และผู้ติดต่อมาปรับปรุงการให้บริการในระยะถัดไปโดยผลการสำรวจพบกว่าร้อยละ 85 มั่นใจในการแก้ไขปัญหาและการให้บริการภายใต้สถานการณ์ป้องกันการระบาดของ COVID-19 ของบริษัท
การบริหารภาวะวิกฤติและการบริหารความต่อเนื่่องทางธุุรกิจ (BCP)
บริษัทได้แก้ไขแผนความต่อเนื่องทางธุุรกิจเพื่อให้ครอบคลุุมเหตุุการณ์เลวร้ายทั้งหมดที่ระบุุผ่านการประเมินความเสี่ยงที่อาจทำให้ธุุรกิจหยุุดชะงัก เช่น ภัยธรรมชาติ อัคคีภัย โรคระบาด ความปลอดภัยมั่นคงของข้อมูล เป็นต้น ในปี 2565 คณะกรรมการบริหาร ได้มีการทบทวน ปรับปรุงกระบวนการการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ โดยวิเคราะห์ความเสี่ยงจากปัจจัยภายในของกลุ่มสายปฏิบัติงานหลักและสายงานสนับสนุนเพื่อให้ทราบถึงจุดแข็งและจุดอ่อนขององค์กร รวมถึงความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่มาจากการวิเคราะห์โอกาสและอุปสรรคโดยอ้างอิงเกณฑ์การวัดผลปัจจัยต่างๆจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อองค์กรทั้งในเชิงบวกและลบ และเพิ่มการวิเคราะห์แนวโน้ม การเกิดเหตุชะงักระดับสากล โดยระบุปัจจัย ความเสี่ยงหลักและปัจจัยที่เป็นโอกาสที่ส่งผลกระทบต่อองค์กรในระยะสั้นและระยะยาวครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีเพื่อนำเข้ากระบวนการจัดทำแผนกลยุทธ์ และแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ
การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid-19
เพื่อรองรับการระบาดของโรคฯ โดยการประยุกต์แผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจทั้งในด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ด้านอาชีวอนามัยเป็นแผนงานเฉพาะด้านโรคระบาดโดยอ้างอิงข้อมูลจากหน่วยงานด้านระบาดวิทยาของรัฐ เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถลดผลกระทบหรือลดโอกาสการติดเชื้อในกระบวนการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในปี 2563 – เดือนกันยายน 2565 บริษัทได้สื่อสารแนวทางการดูแลพนักงานและผู้มีส่วนได้เสียตามมาตรการสาธารณสุขของรัฐบาล เช่น การตรวจคัดกรองและวัดอุณหภูมิ การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ การรักษาระยะห่างและการทำงานที่บ้าน (Work From Home) การประสานงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ใช้บริการพื้นที่และผู้ติดต่อให้ทราบมาตรการเข้าออกพื้นที่ สร้างความตระหนักเรื่องการปฏิบัติตนเพื่อสุขอนามัยที่ดีและการสวมใส่หน้ากากอนามัย การอนุมัติกรอบวงเงินพิเศษแก่พนักงานเพื่อใช้เบิกเงินค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากการติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 15,000 บาทต่อคนต่อปีเพื่อใช้เบิกจ่ายที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลอันเป็นส่วนเกินจากวงเงินหรือเป็นกรณีที่ไม่สามารถใช้สิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มหรือตามแนวทางของรัฐบาลได้ จากการดำเนินมาตรการดังกล่าวส่งผลให้พนักงานมีความปลอดภัยและธุรกิจดำเนินได้อย่างไม่หยุดชะงัก
นับแต่ตุลาคม 2565 เป็นต้นมาบริษัทได้ปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลพนักงานและผู้มีส่วนได้เสียให้สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลที่ได้ปรับลดมาตรการต่างๆ ลง เช่น ทยอยให้พนักงานกลับเข้าทำงานในพื้นที่ครบร้อยละ 100 ในต้นปี 2566 การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อประจำเดือนและการสวมใส่หน้ากากอนามัย ทั้งนี้ บริษัทประเมินความเสี่ยงภายหลังการระบาด COVID-19 ว่ายังมีความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในรูปแบบใหม่ซึ่งส่งผลกระทบทั้งด้านพฤติกรรม ความต้องการของลูกค้า รวมถึงรูปแบบการทำงานของพนักงาน การปรับปรุงกระบวนการและการควบคุมต่างๆ การให้บริการลูกค้า บริษัทต้องปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจและการให้บริการลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถได้รับบริการอย่างต่อเนื่องและปลอดภัย นำดิจิทัลเทคโนโลยีมาปรับใช้ การปฏิบัติงานของพนักงานที่คำนึงถึงความปลอดภัยในการทำงานและการสร้างขวัญกำลังใจของพนักงาน รวมทั้งเป็นไปตามแนวทางของภาครัฐ
ตลอดเส้นทางของการเติบโตเรามุ่งมั่นที่จะก้าวไปพร้อมกับความรับผิดชอบในทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจเพื่อให้เกิดความยั่งยืนจากภายในสู่ภายนอกผ่านการสร้างคุณค่าทั้ง 3 มิติคือเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม บริษัทจึงจะสามารถดำเนินธุรกิจไปพร้อมกับการเติบโตของสังคมอย่างยั่งยืน สุดท้ายนี้ผมในนามของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ขอขอบคุณผู้บริหารและพนักงานบริษัทตลอดจนลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ได้กรุณาให้ความเชื่อถือและไว้วางใจในการบริหารงานตลอดมา
ดร.เทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
“2 กลยุทธ์ที่สำคัญ คือการรักษาความมั่นคงของบริษัทเพื่อก้าวต่อไปข้างหน้าโดยการรักษามาตรฐานการให้บริการต่อลูกค้า และการสร้างโอกาสเพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนโดยศึกษาธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสความเป็นไปได้เพื่อรองรับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยและในประเทศคู่ค้าหลายประเทศ”